AIS 5G จับมือ “เมืองพัทยา” เดินหน้ากระตุ้นภาคการท่องเที่ยว พร้อมนำเทคโนโลยีดิจิทัล และ Privilege อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจเมืองพัทยาให้คึกคัก

AIS 5G จับมือ “เมืองพัทยา” เดินหน้ากระตุ้นภาคการท่องเที่ยว พร้อมนำเทคโนโลยีดิจิทัล และ Privilege อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจเมืองพัทยาให้คึกคัก

​วันที่ 20 กรกฎาคม 2565 : นายวิศรุต พิศาล หัวหน้างานปฏิบัติการภูมิภาค ภาคตะวันออก AIS กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม้ว่าประเทศไทยจะเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่ด้วยพลังและความร่วมมือของทุกภาคส่วน ก็ทำให้เรารับมือกับสถานการณ์นี้ได้เช่นเดียวกับทุกประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทุกแห่งต่างได้รับผลกระทบก็คือ สภาพเศรษฐกิจ ดังเช่นในกรณีของประเทศไทย ที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของเศรษฐกิจไทยเพิ่งทยอยกลับมาฟื้นตัว หลังจากเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ภาครัฐได้เริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไทยให้คึกคัก ซึ่ง Destination เป้าหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเมื่อมาประเทศไทย คงหนีไม่พ้น เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี AIS จึงเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเมืองพัทยาอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานระบบสื่อสาร ที่จะเป็นช่องทางสำคัญทั้งการติดต่อสื่อสาร, การเชื่อมต่อบริการ Digital Service ต่างๆ ตลอดจนสิทธิพิเศษในช่วงเวลาที่ท่องเที่ยวอยู่ในพัทยา”


ด้านนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยา เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับนานาชาติ และถือเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักอันดับที่ 3 ของประเทศ รองจาก กทม.และภูเก็ต และยังสามารถสร้างรายได้แต่ละปี
ไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท แม้เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวในภาพรวมต้องหยุดชะงักไป แต่เมื่อภาครัฐได้ประกาศเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบเต็มรูปแบบ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ก็ถือว่าเป็นข่าวที่ดีอย่างมากต่อเมืองพัทยา เนื่องจากปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดีย ซึ่งหลักๆแล้วคาดว่าจะอยู่ที่วันละประมาณ 3,000 คน นอกเหนือจากนี้จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 90% ที่เดินทางมาเที่ยวในช่วงเทศกาลต่างๆ อีกทั้งผู้ประกอบการเองยังได้รับกระแสการตอบรับจากกลุ่มเอเยนซี่และทัวร์โอเปร์เรเตอร์ จากหลายประเทศที่เริ่มทยอยติดต่อประสานงานเตรียมเดินทางเข้าสู่เมืองพัทยา ด้วยเป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศอันดับโลกและอยู่ใกล้ กทม.หรือสนามบินเพียงไม่ถึง 1 ช.ม. เท่านั้น การที่เมืองพัทยาได้จับมือกับภาคเอกชน อย่าง เอไอเอส ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอันดับ 1 ของไทย ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเมืองพัทยาไปอีกขั้น ในการให้บริการระบบสื่อสารโครงข่ายและเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทาง
มาเยี่ยมเยือนประเทศไทย โดยเชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะช่วยให้สามารถดึงดูดให้มีนักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวเมืองพัทยาในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว (High-season) ของจังหวัดชลบุรี ได้มากยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนการปลุกเมืองพัทยาให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง”

สำหรับการสนับสนุนจาก AIS ประกอบด้วย
– อำนวยความสะดวกและปลอดภัยจากระบบสื่อสารให้แก่นักท่องเที่ยว โดย ร่วมกับ เมืองพัทยา ททท. และหน่วยงานที่อยู่ในกลุ่มบริการ การท่องเที่ยวเมืองพัทยา ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการสนับสนุนซิมการ์ด AIS Tourism sim ฟรี
ให้แก่นักท่องเที่ยว ในลักษณะของซิมที่แถมประกันภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งประกันอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาล 50,000 บาท , ประกันความเสียหาย, ผลประโยชน์ชดเชยความล่าช้าในการเดินทาง และ ผลประโยชน์เลื่อน/เลิกการเดินทาง ประเภทละ 5,000 บาท (1 ซิม ต่อ 1 สิทธิ์) พร้อมมอบสิทธิพิเศษ AIS Privilege เป็นส่วนลดในร้านค้าที่ร่วมรายการ
ตลอดช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทย โดยนักท่องเที่ยวสามารถรับฟรีได้ที่ จุดบริการนักท่องเที่ยว อาทิ Walking street, ชายหาดจอมเทียน, ชายหาดพัทยา, ตลาดนาเกลือ และท่าเรือแหลมบาลีฮาย เป็นต้น

– เตรียม รองรับ สัญญาณ 4G , 5G ในทุกพื้นที่ Event ของเมืองพัทยา ไม่ว่าจะเป็น Pattaya music festival 2022 , เทศกาลพลุเมืองพัทยา 2022 และ Pattaya Countdown 2022 พร้อมเสริมทัพทีมวิศวกร และทีมบริการลูกค้า ทั้ง Contact Center 1175 และโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง ดูแลประสิทธิภาพเครือข่ายและให้บริการลูกค้าเพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้ลูกค้าในทุกช่วงเทศกาล

– สร้างความมั่นใจและมอบความพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยว โดยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการให้บริการ
โดยบุคลากรด่านหน้าของ AIS Shop ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 แล้ว ทั้งที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และภายในห้างสรรพสินค้า พร้อมจัดเตรียมสถานที่ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสูงสุด อย่างสอดคล้องไปกับมาตรการของภาครัฐและมาตรฐานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (SHA) ทั้งนี้รวมไปถึงการมอบสิทธิพิเศษจากร้านค้าท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบกรายย่อยอีกด้วย
​นายวิศรุต กล่าวทิ้งท้ายว่า “เรามีเจตนารมณ์อย่างแรงกล้าในการร่วมทำงานกับภาครัฐในการฟื้นฟูประเทศ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้กลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง”

ธีรวัฒน์ อินธิพันธ์ รายงาน

Related posts